เกร็ดความรู้เกี่ยวกับค้างคาวและมูลค้างคาว
ข้อมูลของค้างคาว
ค้าง
คาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ออกลูกปีละสองครั้ง มีหลายสายพันธุ์
บางชนิดกินผลไม้ กินแมลง กินเลือด แต่ที่อาศัยอยู่ที่เขาหน่อเขาแก้ว
ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้ได้รับสัมปทานนั้น เป็นชนิดกินแมลง
หรือเรียกว่าค้างคาวหนู ลำตัวเล็กเท่านิ้วหัวแม่มือคน กินแมลงเป็นอาหาร
ชอบที่มืดอากาศถ่ายเทสะดวก ช่วงเวลาที่ค้างคาวบินออกไปหากินจะเป็นเวลาช่วง
18.00 น.และจะกลับเข้าถ้ำประมาณ 03.00 น.
ซึ่งเวลาอาจเร็วขึ้นหรือช้าลงขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล
จากการตรวจพิสูจน์
ทางธรณีวิทยาพบว่า ค้างคาวหนูอาศัยอยู่ในถ้ำบริเวณนี้มาไม่น้อยกว่า 50,000
ปีแล้ว
ซึ่งมูลของค้างคาวกินแมลงนี้มีธาตุอาหารสูงมากเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ทำ
เป็นปุ๋ย
มูลค้างคาวดีอย่างไร
ปุ๋ยจากมูลลัตว์ที่ชาวเกษตรกร
ต้องการมากที่สุด
คือปุ๋ยจากมูลค้างคาวเพราะมีธาตุอาหารมากกว่าปุ๋ยจากมูลสัตว์ชนิดอื่น
แต่หาได้ยากกว่าปุ๋ยจากมูลโค-กระบือหรือมูลไก่
ปุ๋ยจากมูลค้างคาวมีธาตุอาหารหลัก,ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริมมากถึง 13
ชนิดจากทั้งหมด 16 ชนิดที่พืชต้องการ ให้ปริมาณไนโตรเจนมากถึง14
%ซึ่งมาจากเยี่ยวของค้างคาวและให้ธาตุฟอสฟอรัสสูง
เนื่องมาจากการที่ค้างคาวกินแมลงเป็นอาหารซึ่งหนึ่งชีวิตของแมลงให้ธาตุ
อาหารครบถ้วน
ดังนั้นมูลค้างคาวจึงเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่ทางบริษัทฯนำ
มาผลิตเป็นปุ๋ยคุณภาพสูง
เพื่อพี่น้องเกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยที่สามารถเพิ่มผลผลิต
ลดต้นทุนและเพิ่มพูนผลกำไรได้อย่างแท้จริง
"มูลค้างคาวเป็นปุ๋ยชั้นเยี่ยมที่เกษตรกรต้องการเป็นอย่างมาก"
มูล
ค้างคาวเป็นที่ต้องการของพี่น้องเกษตรกรทุกท่านก็เพราะ
คุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่ามี
ประโยชน์ต่อพืชมากมายมหาศาล
ในขณะเดียวกันก็เป็นของที่หาได้ยากเพราะค้างคาวไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงกันได้
โดยทั่วไป
เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมีเชิงผสม
จากมูลค้างคาว ชนิดเม็ดปั้นเป็นเนื้อเดียวกัน มีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง
ธาตุอาหารเสริม มีฮิวมิคแอสิก มีจุลินทรีย์ ช่วยต้านทานโรครากเน่า โคนเน่า
มีอินทรียวัตถุ ช่วยปรับสภาพดิน ให้ร่วนซุย พืชจึงเจริญเติบโตอย่างมั่นคง
มีระบบราก ลำต้น ใบ ดอก ผล สมบูรณ์ ลดต้นทุน ให้ผลผลิตสูง
สามารถใช้ได้ดีกับทุกพืชทั้งพืชไร่ พืชสวน พืชผักและไม้ดอกไม้ประดับ
พืชไร่ ได้แก่ นาข้าว,ข้าวโพด,มันสำปะหลัง,อ้อย,พริก,หอม,กระเทียม,แตง,ถั่ว เป็นต้น
พืชสวน ได้แก่ ยางพารา,ปาล์ม,ส้ม,มะนาว,มะม่วง,ทุเรียน,ลำใย,เงาะ,มังคุด,ลองกอง,ลิ้นจี่,ขนุน,สละ,สับปะรด เป็นต้น
พืชผักทุกชนิด ได้แก่ กะหล่ำดอก,กะหล่ำปลี,ผักกาดขาวและยาสูบ เป็นต้นรวมทั้งไม้ดอกไม้ประดับทุกชนิด
ผลการเปรียบเทียบมูลสัตว์ต่างๆกับมูลค้างคาว
มูลค้างคาวมีไนโตรเจน (N) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆประมาณ 20 เท่า
มูลค้างคาวมีฟอสฟอรัส (P) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 130 เท่า
มูลค้างคาวมีโพเทสเซียม (K) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 4 เท่า
หมายเหตุ
ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดี ลำต้นและใบแข็งแรง
ฟอสฟอรัส (P) ช่วยให้พืชแข็งแรงทั้งส่วนราก ลำต้น ใบ ออกดอก ออกผล
โพแทสเซียม (K) ทำให้ผนังเซลล์ของพืชหนาขึ้น
ปุ๋ยอินทรีย์เคมีเขาเพชร สูตร 6-3-3 ขนาด 25 กก. ราคา 540 บาท