[ใหม่] สุดยอดอาหารเสริม 2 ชนิดรวมกัน น้ำมันรำข้าวและจมูกกข้าว ผสมโอเมก้า omega ราคาถูก โทร.084-2061619
650 ฿
รายละเอียด
ข้อมูลทางวิชาการ P5 โอเมก้า สุดยอดอาหารเสริมสองชนิดของโลกมารวมกัน
P5 โอเมก้า ได้รับการคิดค้นพัฒนาเพื่อนำประโยชน์จากการผสานคุณค่าของน้ำมันจมูกข้าวซึ่งเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 (w3) หรือกรดไลโนเลนิค และน้ำมันปลาอันอุดมไปด้วยกรดไขมันw-3 สายยาว เช่น EPA (eicosapentanoic acid) และ DHA (docohexaenoic acid) มาไว้ในแคปซูลเดียวกัน เนื่องจากพืช เช่น ข้าว มีเอนไซม์ที่จะสังเคราะห์ กรดไขมัน w - 3จึงถือเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับจากการบริโภคอาหารเท่านั้นในเซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถเปลี่ยนจาก w - 3 ที่มีคาร์บอนจำนวน 18 อะตอมให้เป็น w - 3 สายยาวได้โดยการเพิ่มจำนวนคาร์บอนอะตอมและพันธะคู่ อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของการเปลี่ยนกรดไลโนเลนิคให้เป็น w - 3 สายยาวในร่างกายของผู้ใหญ่โดยเฉพาะในผู้ชายนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้นการบริโภคอาหารจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเพิ่มปริมาณกรดไขมัน w - 3 สายยาวให้เพียงพอต่อการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเรา การรับประทาน P5 โอเมก้า จำนวน 4 แคปซูลต่อวัน มีปริมาณ EPA และ DHA 450 mg จะเพิ่มระดับกรดไขมัน w - 3 ให้เพียงพอต่อการทำงานของเซลล์ร่างกายต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของ P5 omega
P5 omega เป็นอาหารเสริมรายแรกที่นำคุณประโยชน์จากน้ำมันปลาและน้ำมันจมูกข้าวมารวมกันไว้ในแคปซูลเดียว การรับประทานน้ำมันปลาเพียงอย่างเดียวเป็นเวลานานติดต่อกันหลายเดือน อาจทำให้ร่างกายขาดวิตามิน E ได้ ผู้ผลิตน้ำมันปลาส่วนใหญ่จึงต้องเติมวิตามินอีสังเคราะห์ แต่ P5 omega ประกอบด้วยวิตามิน E ธรรมชาติจากน้ำมันรำข้าว ผู้บริโภคจึงวางใจ P5 omega ได้ว่าไม่มีผลข้างเคียง นอกจากนี้การรับประทานน้ำมันปลาเพียงอย่างเดียวอาจทำให้ระดับ LDL โคเลสเตอรอลสูงขึ้น 5-10% แต่ น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว ใน P5omega สามารถลด LDL โคเลสเตอรอลได้ถึง 40% ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า P5 omega เป็นอาหารเสริมสำหรับสุขภาพของคุณอย่างแท้จริง
P5 omega และการลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
การทำงานของสารสเตอร์รอล (sterols) และสตานอล (stanols) ในน้ำมันรำข้าวร่วมกับกรดไขมัน w - 3 สายยาวจากน้ำมันปลาช่วยป้องกันและลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้อย่างเห็นผล น้ำมันทั้งสองชนิดนี้ทำงานร่วมกันหลาย ๆ วิธีในเพื่อช่วยชะลอการเกาะตัวของไขมันที่ผนังเส้นเลือดหัวใจ เช่น ไปลดระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ ( TAG) ในกระแสเลือด ซึ่งสองปัจจัยนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจ สารสเตอร์รอลจากน้ำมันรำข้าวนั้นสามารถลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดได้โดยการไปแข่งขันแย่งพื้นที่การดูดซึมของโคเลสเตอรอลจากอาหารในผนังลำไส้เล็ก ส่งผลให้โคเลสเตอรอลจากอาหารไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย งานวิจัยทั่วโลกต่างยอมรับว่า EPA และ DHA จากน้ำมันปลามีประสิทธิภาพในการลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ทั้งระดับไตรกลีเซอร์ไรด์หลังอาหารและระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ช่วงอดอาหาร ส่งผลให้ร่างกายกำจัดสามารถอนุภาคของ LDL โคเลสเตอรอล (โคเลสเตอรอลที่ไม่ดี) ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดไขมันสะสมบนผนังหลอดเลือดได้เร็วขึ้น จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ จากงานวิจัยทั่วโลกทำการวิจัยในคนมากกว่า 200,000 คน ใช้เวลาติดตามผลนานมากกว่า 11 ปี สรุปว่ากรดไขมัน w - 3สายยาวสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุการตายของโรคหัวใจและสมองขาดเลือดฉับพลัน กรดไขมัน w - 3สายยาว ไปยับยั้งการสร้างสารไอโคซานอยด์ที่กระตุ้นให้เกิดการรวมตัวกันของเกร็ดเลือด
ส่งผลให้การรวมตัวของเกร็ดเลือดลดลง จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน นอกจากนี้โอเมก้า 3 สายยาวซึ่งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มหัวใจยังช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติโดยไปปรับการไหลของประจุไฟฟ้า เช่น ประจุโซเดียม, โปแตสเซียม และ แคลเซียมทำให้กระแสไฟฟ้าเสถียรและจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ป้องกันการเกิดหัวใจวายได้ คุณสมบัติเด่นอีกชนิด ของกรดไขมัน w - 3สายยาวก็คือ ความสามารถในการลดการอักเสบ (anti-inflammation) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดไขมันสะสมบนผนังเส้นเลือด (atherosclerousis) การรับประทาน EPA และ DHA เป็นประจำจะไปช่วยลดจำนวนและปฏิกิริยาของแมคโครฟาจที่จะเข้าไปรวมตัวกับไขมันที่เกาะบนผนังหลอดเลือด (plaque) ส่งผลให้ชะลอการเกิดการสะสมบนผนังเส้นเลือดได้ และปริมาณ EPA และ DHA ที่สูงจะทำให้ plaque ไขมันเสถียรไม่หลุดไปอุดตันเส้นเลือด จึงทำให้ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตเนื่องจากเส้นเลือดอุดตันได้
จึงสรุปได้ว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้โดยการลดโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือด, ช่วยลดความดันโลหิต, ลดการจับตัวกันของเกร็ดเลือด, ลดการอักเสบและช่วยลดการสะสมของไขมันบนผนังเส้นเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจไม่แข็งตัว และป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดหัวใจและสมอง โอเมก้า 3 ยังช่วยปรับจังหวะการเต้นหัวใจเป็นปกติป้องกันหัวใจวาย การรับประทานกรดไขมันโอเมก้าจึงช่วยป้องกันการตายอย่างฉับพลัน และลดอัตราเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด
P5 โอเมก้า และการลดการอักเสบ
กรดไขมัน โอเมก้า-3 สายยาวมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ เนื่องจากความสามารถในการยับยั้งการสังเคราะห์กรดอะแรคคิโดนิค ซึ่งเป็นกรดไขมันตั้งต้นในการสร้างสารไอโคซานอยด์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและบวมแดง เช่น สารพลอสตาแกลนดินส์และลูโคไตรอีนส์ งานวิจัยจำนวนมากในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยพบว่าปริมาณลูโคไตรอีนส์ บี4 และบี 1 ซึ่งสร้างจากเซลล์เม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิวส์และโมโนไซต์ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เซลล์เม็ดเลือดขาวทั้งสองชนิดนี้เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในโรครูมาตอย นอกจากนี้กรดโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลายังช่วยลดอาการข้อแข็งฝืด และอาการข้อยึดจากโรคข้อกระดูกเสื่อม (osteoarthritis) ที่พบมากในผู้สูงอายุ ทำให้ผู้ป่วยลดอาการปวดข้อ เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น และสามารถลดหรือหยุดการใช้ยาได้หลังจากการรับประทาน EPA+DHA ปริมาณ 3 กรัมติดต่อกันเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ นอกจากโรครูมาตอยและข้อเสื่อมแล้ว การรับประทานโอเมก้า-3 ก็สามารถช่วยบรรเทาหรือยับยั้งอาการอักเสบในโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคลำไส้อักเสบ, โรคเรื้อนกวาง, โรคสะเก็ดเงิน และโรคภูมิแพ้ต่างๆ
P5 omega และการทำงานของสมองและสายตา
DHA เป็นส่วนประกอบหลักที่มีผลต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท โดยเฉพาะในสมองส่วนสีเทาและจอประสาทตา (เรตินา) ของคนเรามี DHA สูงถึง 50% ปริมาณ DHA ในเนื้อเยื่อสมองและตานั้น เพิ่มขึ้นตามการเจริญเติบโตในเด็ก และลดลงในผู้สูงอายุ ปริมาณ DHA ในเนื้อเยื่อทั้งสองชนิดนี้ยังสัมพันธ์กับปริมาณ DHA ในอาหารที่บริโภคด้วย เนื่องจาก DHA มีบทบาทสำคัญในการสื่อประสาท การขาด DHA จึงส่งผลให้การพัฒนาของสายตาและระบบประสาทในเด็กด้อยลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความจำเสื่อมและประสิทธิภาพการทำงานสมองลดลงในผู้สูงอายุ
ส่วนประกอบใน 1 แคปซูล
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว (34.5%) 500 มิลลิกรัม
กรดโอเลอิก 225 มิลลิกรัม
กรดไลโนเลอิก 110 มิลลิกรัม
แกมม่าออไรซานอล 8 มิลลิกรัม
วิตามิน อี 0.75 มิลลิกรัม
น้ำมันปลา (34.5%) 500 มิลลิกรัม
ผลิตภัณฑ์นี้ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ได้แก่ อีพีเอและดีเอชเอ ใน1 แคปซูลมีน้ำมันปลา 500 มิลลิกรัม
ประกอบไปด้วย กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 90 มิลลิกรัม
กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (อีเอชเอ) 60 มิลลิกรัม
กรดไขมันอิ่มตัว 135 มิลลิกรัม
ไม่ใช้วัตถุกันเสีย,ไม่เจือสารสังเคราะห์,ไม่แต่งกลิ่น
วิธีรับประทาน
รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล ก่อนหรือหลังอาหาร