สนใจดูรายละเอียดสั่งซื้อสินค้าได้ที่
http://www.thaihealthpark.com
โทร. 080-7627477
LINE ID : melody.kenta
ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย วี เอ็ม พลัส
เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่นำเอาตำรับยาสมุนไพรจีนมาพัฒนาโดย
ใช้วิทยาการและ เทคโนโลยีในการผลิตสมัยใหม่ ซึ่งเป็นการยกระดับในการฟื้นฟู
ป้องกันผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพของไต เช่น
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในชาย
อาการหลั่งเร็ว
อาการวิตกกังวลในสมรรถภาพทางเพศ
อาการนอนไม่หลับ อาการความจำเสื่อม
อาการร่างกายอ่อนเพลีย
สรรพคุณ วี เอ็ม พลัส
ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย วี เอ็ม พลัส สามารถรับประทานได้ทุกวัน
ให้ผลที่รวดเร็ว และไม่มีผลข้างเคียง ผลิตภัณฑ์วี เอ็ม พลัส
จะให้สารอาหารเพื่อบำรุงและกระตุ้นการทำงานของตับและไตให้มีประสิทธิภาพที่
ดีขึ้นในช่วงเวลาสั้นทำให้ระบบของเหลวในร่างกายมีความสมดุลและมีการเพิ่ม
ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในเลือด
เนื่องจากตับและไตเป็นอวัยวะที่สำคัญที่เกี่ยวพันกับระบบควบคุมการแข็งตัว
ของอวัยวะเพศชาย(Sacral Erection Center) โดย
มีหน้าที่ผลิตสารไนตริกอ๊อกไซด์ (Nitric Oxide) และวาโซแอกทีฟโพลีเพ็พไทด์
(Vasoactive Polypeptide) เพื่อส่งตามต่อมไร้ท่อไปที่อัณฑะ
ทำให้เกิดการปล่อยสาร Cyclic GMP เพื่อทำให้องคชาติแข็งตัว ดังนั้น
ผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย วี เอ็ม พลัส จึงช่วยแก้ปัญหาการแข็งตัว
หรือการแข็งตัวไม่เต็มที่ของอวัยวะเพศชายได้ทำให้เกิดความพึงพอใจและความสุข
ในกิจกรรมทางเพศเพิ่มขึ้น เติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิตคู่
ส่วนประกอบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย วี เอ็ม พลัส
ใช้วัตถุดิบธรรมชาติประกอบด้วย
ส่วนประกอบ
Oyster Powder Extract (หอยนางรมสกัด)
14.61%
Garlic Extract (กระเทียมสกัด)
11.85%
Reishi Mushroom Extract (เห็ดหลินจือสกัด)
10.06%
Siberian Ginseng Extract (โสมไซบีเรียสกัด)
4.87%
สมุนไพรต่างๆ
ปริมาณ 1 กล่อง จะมี 10 กล่องเล็ก (1 กล่องเล็ก: 2 แคปซูล)
ขนาดและวิธีใช้ วี เอ็ม พลัส
1. ใช้ได้ทั้งบุรุษ และ สตรี
2. รับประทานครั้งละ 1-2แคปซูล
(ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละท่าน) ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนมีเพศสัมพันธ์
(ควรรับประทานกับน้ำอุ่น)
3. สำหรับการเสริมการรักษาโรค ในผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคเบาหวาน รับประทานวันละ 1 แคปซูล เมื่อตื่นนอนตอนเช้าหรือก่อนนอน
ข้อควรระวังสำหรับวี เอ็ม พลัส
1. สำหรับเด็กไม่ควรรับประทาน
2. ไม่ควรรับประทานร่วมกับน้ำเย็น
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile DysfunctionED)
เป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว
หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวจนมีเพศสัมพันธ์เสร็จสมบูรณ์
คนทั่วไปมักเรียกกันว่า ภาวะนกเขาไม่ขันในคนไทยมีตัวเลข ที่ประมาณการไว้คือ
พบประมาณ 37.5% ของชายไทยวัย 4070 ปี หรือถ้าแยกตามอายุ พบได้ดังนี้
อายุ 40 49 ปี พบ 20.4%
อายุ 50 59 ปี พบ 46.3%
อายุ 60 70 ปี พบ 73.4%
รวมแล้วในคนไทยพบได้ถึง 3 ล้านคน
และกำลังเพิ่มขึ้นจากภาวะมลพิษในอาหารที่เราคาดไม่ถึงอวัยวะเพศชายจะแข็งตัว
ได้ต้องเกิดจากการทำงานของระบบต่างๆ ได้แก่
1.ระบบประสาท:สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาท
2.หลอดเลือดแดงต้องไม่ตีบ
3.ฮอร์โมนเพศชายไม่บกพร่อง
4.สภาพร่ายกายทั่วไปแข็งแรง
5.จิตใจ
โดยทุกระบบจะทำงานประสานร่วมกัน
เริ่มจากการมีสิ่งเร้ามากระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศก่อน
แล้วสมองก็จะเริ่มส่งสัญญาณไปยังอวัยวะเพศผ่านทางระบบประสาท(ไขสันหลังและ
เส้นประสาท)ทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดไป
ยังอวัยวะเพศ ในขณะเดียวกันหลอดเลือดแดง
ที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศจะขยายตัวขึ้นเป็น 2 เท่าทำให้เลือดไหลมาคั่ง
และเลือดก็ถูกกักไว้โดยเนื้อเยื่อรอบๆ
เป็นผลให้มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศถ้ามีอะไรก็ตามที่มาขัดขวางขบวนการเหล่า
นี้ จะส่งผลให้เกิด ED ได้ทั้งสิ้น
สาเหตุของ ED มีอะไรบ้าง
1.สาเหตุทางกาย พบ 70% แยกเป็น
1.1 วัยทองในเพศชาย (Andropause) ร่างกายจะสร้างฮอร์โมน Testosterone ลดลงทำให้สมรรถภาพและความต้องการทางเพศถดถอยไปตามวัย
1.2
โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ
2.สาเหตุทางจิตใจ พบ 20%
3.สาเหตุอื่นๆ พบ 10%
สาเหตุของ ED แยกตามโรค
1.ระบบหลอดเลือด พบได้บ่อยที่สุด
เกิดจากหลอดเลือดมีการอุดตันจากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันสูง
ไขมันในเลือดสูง ทำให้เลือดไปยังอวัยวะเพศ
ได้น้อย จึงไม่สามารถแข็งตัวได้
2.ระบบประสาท เกิดจากโรคของสมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาท
เช่น พาร์กินสัน
อัลไซเมอร์โรคเส้นเลือดของสมองอุบัติเหตของไขสันหลังและเส้นประสาทเสื่อม ุ
จากเบาหวานที่เป็นนานเกิน 10 ปี
3.ฮอร์โมนเพศ (Testosterone)ต่ำ จากวัยทอง หรือเนื้องอกของต่อมใต้สมอง ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง
4.ผลจากการผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน เช่น กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก ทวารหนัก อาจมีการทำลายเส้นเลือด และเส้นประสาทบริเวณอวัยวะเพศ
5.จิตใจ เช่น เครียด วิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคจิต
6.สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ บุหรี่ เหล้า ยาบางชนิด ยาเสพติด
ขาดสารอาหาร
พักผ่อนน้อยควรสังเกตหรือตรวจการแข็งตัวของอวัยวะเพศในช่วงที่หลับ
หากยังสามารถแข็งตัวตอนกลางคืนหรือเช้ามืด แสดงว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากจิตใจ
แต่ก็ไม่แน่นอนเสมอไป
ส่วนประกอบต่างๆ ของวี เอ็ม พลัส
หอยนางรมสกัด
1.ช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
2.ปรับการทำงานของระบบประสาท(อัมพฤกษ์อัมพาต)
3.ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
ซึ่งหอยนางรมสกัดประกอบด้วย ไกลโคเจน(Glycogen),ทอรีน(Taurine)
และสังกะสี(Zinc)
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดเพิ่มจำนวนและความแข็งแรงของเชื้ออสุจิ
และช่วยป้องกันโรคหัวใจ
4.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมและเสริมสมรรถภาพของเซลล์ต่างๆ
ในร่างกาย ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก(Prostate Cancer)
หรือภาวะต่อมลูกหมากอักเสบ
โสมสกัด
1.ช่วยปรับสมดุลระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่นระบบฮอร์โมน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
2.ลดอัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
3.ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
4.ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีพละกำลังมากขึ้น
5.ช่วยบรรเทาอาการเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ
6.ช่วยชะลดความแก่ เป็นยาอายุวัฒนะ
กระเทียมสกัด
1.เพิ่มฮอร์โมนเพศชาย ปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศ ทำให้เชื้ออสุจิมีความแข็งแรง
2.บำรุงร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจลดการอุดตันของเส้นเลือด
ลดคลอเรสเตอรอล ลดไขมันในกระแสเลือด ลดความดันโลหิต
ลดการอุดตันของเส้นเลือด,
ลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือดได้ 58% เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
ป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
3.ช่วยปรับสภาพร่างกายต่อความเครียด,
การได้รับแอลกอฮอล์มากเกินไป, ท้องร่วง
นอกจากนี้กระเทียมยังสามารถออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างแรง
(Major Antioxidant) ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อโรคของหลอดเลือด
4.การบริโภคกระเทียมเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดสมองแตก หรือ Stroke ได้มากถึงร้อยละ 40และลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวาย
เฉียบพลัน
เห็ดหลินจือสกัด
1.มีสารกลุ่มเสตียรอยด์ ซึ่งกระตุ้นการทำงานของตับ บำรุงไต ประสาท และมีฤทธิ์ยับยั้งมะเร็ง
2.บำรุงตับ รักษาโรคตับอักเสบ สามารถลดค่า SGOT และ SGPT ที่สูงเกินมาตรฐานในเลือด
3.ช่วยเพิ่มพลังทางเพศ และลดภาวะการหลั่งเร็ว
4.ช่วยให้เชื้ออสุจิมีความแข็งแรง และปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศ
5.ช่วยป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต และป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
6.ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และผ่อนคลาย ไม่เหนื่อยล้า
วี เอ็ม พลัส ให้ประโยชน์ดังนี้
1.ช่วยบำรุงไต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงไต เพิ่มประสิทธิภาพการกรองและกำจัดของเสีย
2.ช่วยในการบำรุงสมองบรรเทาอาการปวดเมื่อยในร่างกาย
3.ช่วยปรับสภาพความสมดุลของเหลวในร่างกาย
4.ช่วยการทำงานของไขกระดูก
5.ช่วยเสริมการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ และเบาหวาน
6.ช่วยอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายและหญิงให้ดีขึ้น
7.ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย(Testosterone)ในเลือด
8.ช่วยให้อาการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชายและอาการหลั่งเร็วให้ดีขึ้น
9.ฟื้นฟูพลังงานให้แก่ร่างกาย และ ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย หลังมีกิจกรรมทางเพศ ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง