[ใหม่] ปุ๋ยชีวภาพ hy

592 สัปดาห์ ที่แล้ว - ปทุมธานี - คนดู 133

                  ไฮไลฟ์โกรเอส (Hylifegro-S) และ ไฮไลฟ์โกรแอล (Hylifegro-L)

                        ปุ๋ยน้ำอินทรีย์ชืวภาพ (หนึ่งขวดใช้ได้ 20 ไร่)

                       ปุ๋ยมูลค้างคาวแท้ 100%อินทรีย์เคมีเขาเพชร

 

   คุณ… ปลูกพืชเหล่านี้หรือไม่ แล้วอยากได้ผลผลิตดีมั๊ย และวิธีการปลูก เป็นอย่างไร 
นาข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด มะนาว แตงกวา ถั่วฝักยาว พริก มะเขือ เห็ด ปาล์ม ยางพารา ลำไย มะม่วง ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ พุทรา ชมพู่ ทุเรียน มังคุด มะยงชิด มะไฟ ลองกอง ขนุน ส้มโอ องุ่น คะน้า ผักบุ้ง ผักชี ต้นหอม หัวหอม กล้วยไม้ กุหลาบ ฯลฯ พืชเหล่านี้ล้วนได้รับการพิสูจน์มาแล้ว 

   นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของไฮไลฟ์โกร มีประสิทธิภาพดังนี้ 
- ช่วยในการปรับโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น เหมาะสมกับการเพาะปลูกมากขึ้นคืนระบบนิเวศที่ดีให้แก่จุลินทรีย์ในดิน 
- ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากพืช รากพืชสามารถดึงดูดซับธาตุสารอาหารในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
- ทำให้พืชสามารถดำเนินกิจกรรมในต้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม พืชสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะร้อนจัด หนาวจัด ฝนแล้งกรือฝนชุก โดยไม่ส่งผลกระทบแม้ใช้อย่างต่อเนื่อง 
- สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียงจากการใช้สารจำกัดศัตรูพืชเช่นยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง ทำให้พืชประธานไม่เหลืองไม่ชะงักงัน 
- ไฮไลฟ์โกร ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่มีสารตกค้างในดิน 

    ไฮไลฟ์โกรเอส 

เป็นสารอินทรีย์สกัดพิเศษช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางลำต้นเพิ่มพลังงานให้แก่พืชอย่างต่อเนื่องช่วยปรับโครงสร้างเนื้อเยื่อขยายเซลล์ช่วยฟื้นฟูต้นพืชที่โทรมให้แข็งแรงทำให้พืชทนต่อสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงและทำให้พืชดูดซับธาตุอาหารในดินเพื่อในไปใช้ในการปรับโครงสร้างได้ดีขึ้นเหมาะสำหรับพืชที่ต้องการใช้พลังงานมากในช่วงเร่งการแตกหน่อแตกกอเร่งต้นเร่งผลเร่งดอกเร่งใบเร่งรากทำให้ต้นพืชสมบูรณ์แข็งแรงใช้ง่ายประหยัดลดการใช้ปุ๋ยกระสอบ 
-พืชจะทนแล้งต้านหนาว 
-พืชสามารถเร่งการงอกของเมล็ด 
-พืชสามารถสร้างรากใหม่และมีใบเขียวทน 
-ลำต้นพืชแกร่งและเร่งโตเร็ว 

   ไฮไลฟ์โกรแอล 
เป็นสารอาหารและแร่ธาตุชนิดเข้มข้นที่จำเป็นช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงให้แก่พืชสำหรับช่วงระยะเริ่มติดดอกออกผลลงหัวหรือโตสมบูรณ์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตให้ได้ปริมาณสูงสุด 
-เปิดตาดอกช่วยผสมเกสร 
-ส่งเสริมการสร้างและสะสมอาหารภายในต้นพืช 
-เพิ่มปริมาณแป้งในพืชหัวได้มากขึ้น 
-ทำให้พืชหัวมีขนาใหญ่แข็งแรงเนื้อแน่นใส้ไม่กลวง 
-ลดการร่วงหล่นขั้วเหนียว 
-ทำให้พืชดูดซับธาตุอาหารต่างๆในดินได้อย่างเต็มที่ 
-ช่วยขยายขนาดและพัฒนาคุณภาพของผลผลิตให้ดีขึ้น 

    ผลิตภัณฑ์  ไฮไลฟ์โกร ( Hylifegro )

ไฮไลฟ์โกรเอส (Hylifegro-S) และไฮไลฟ์โกรแอล (Hylifegro-L) 
1. ขนาดบรรจุ1,000 มิลลิลิตร./ขวดและ500มิลลิลิตร 
2. ขนาดถังพ่นยา20 ลิตรตวงใช้20 - 30 มิลลิลิตร 
3. ขนาดถังพ่นยา200 ลิตรตวงใช้200 - 300 มิลลิลิตร (หรือ1,000 มิลลิลิตรผสมน้ำได้1,000 ลิตร) 
4. สามารถใช้ผสมร่วมกับสารป้องกันกำจัดโรคและแมลงได้ทุกชนิด 



ข้อมูลของค้างคาว 

ค้างคาวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ออกลูกปีละสองครั้ง มีหลายสายพันธุ์ บางชนิดกินผลไม้ กินแมลง กินเลือด แต่ที่อาศัยอยู่ที่เขาหน่อเขาแก้ว ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้ได้รับสัมปทานนั้น เป็นชนิดกินแมลง หรือเรียกว่าค้างคาวหนู ลำตัวเล็กเท่านิ้วหัวแม่มือคน กินแมลงเป็นอาหาร ชอบที่มืดอากาศถ่ายเทสะดวก ช่วงเวลาที่ค้างคาวบินออกไปหากินจะเป็นเวลาช่วง 18.00 น.และจะกลับเข้าถ้ำประมาณ 03.00 น. ซึ่งเวลาอาจเร็วขึ้นหรือช้าลงขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล 
จากการตรวจพิสูจน์ทางธรณีวิทยาพบว่า ค้างคาวหนูอาศัยอยู่ในถ้ำบริเวณนี้มาไม่น้อยกว่า 50,000 ปีแล้ว ซึ่งมูลของค้างคาวกินแมลงนี้มีธาตุอาหารสูงมากเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ทำเป็นปุ๋ย 

มูลค้างคาวดีอย่างไร 
ปุ๋ยจากมูลลัตว์ที่ชาวเกษตรกรต้องการมากที่สุด คือปุ๋ยจากมูลค้างคาวเพราะมีธาตุอาหารมากกว่าปุ๋ยจากมูลสัตว์ชนิดอื่น แต่หาได้ยากกว่าปุ๋ยจากมูลโค-กระบือหรือมูลไก่ ปุ๋ยจากมูลค้างคาวมีธาตุอาหารหลัก,ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริมมากถึง 13 ชนิดจากทั้งหมด 16 ชนิดที่พืชต้องการ ให้ปริมาณไนโตรเจนมากถึง14 %ซึ่งมาจากเยี่ยวของค้างคาวและให้ธาตุฟอสฟอรัสสูง เนื่องมาจากการที่ค้างคาวกินแมลงเป็นอาหารซึ่งหนึ่งชีวิตของแมลงให้ธาตุอาหารครบถ้วน 
ดังนั้นมูลค้างคาวจึงเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่ทางบริษัทฯนำมาผลิตเป็นปุ๋ยคุณภาพสูง เพื่อพี่น้องเกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยที่สามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มพูนผลกำไรได้อย่างแท้จริง 

"มูลค้างคาวเป็นปุ๋ยชั้นเยี่ยมที่เกษตรกรต้องการเป็นอย่างมาก
มูลค้างคาวเป็นที่ต้องการของพี่น้องเกษตรกรทุกท่านก็เพราะ คุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมายมหาศาล ในขณะเดียวกันก็เป็นของที่หาได้ยากเพราะค้างคาวไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงกันได้โดยทั่วไป เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมีเชิงผสม จากมูลค้างคาว ชนิดเม็ดปั้นเป็นเนื้อเดียวกัน มีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม มีฮิวมิคแอสิก มีจุลินทรีย์ ช่วยต้านทานโรครากเน่า โคนเน่า มีอินทรียวัตถุ ช่วยปรับสภาพดิน ให้ร่วนซุย พืชจึงเจริญเติบโตอย่างมั่นคง มีระบบราก ลำต้น ใบ ดอก ผล สมบูรณ์ ลดต้นทุน ให้ผลผลิตสูง สามารถใช้ได้ดีกับทุกพืชทั้งพืชไร่ พืชสวน พืชผักและไม้ดอกไม้ประดับ 

พืชไร่ ได้แก่ นาข้าว,ข้าวโพด,มันสำปะหลัง,อ้อย,พริก,หอม,กระเทียม,แตง,ถั่ว เป็นต้น 
พืชสวน ได้แก่ ยางพารา,ปาล์ม,ส้ม,มะนาว,มะม่วง,ทุเรียน,ลำใย,เงาะ,มังคุด,ลองกอง,ลิ้นจี่,ขนุน,สละ,สับปะรด เป็นต้น 
พืชผักทุกชนิด ได้แก่ กะหล่ำดอก,กะหล่ำปลี,ผักกาดขาวและยาสูบ เป็นต้นรวมทั้งไม้ดอกไม้ประดับทุกชนิด 

ผลการเปรียบเทียบมูลสัตว์ต่างๆกับมูลค้างคาว 
มูลค้างคาวมีไนโตรเจน (N) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆประมาณ 20 เท่า 
มูลค้างคาวมีฟอสฟอรัส (P) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 130 เท่า 
มูลค้างคาวมีโพเทสเซียม (K) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 4 เท่า 

หมายเหตุ 
ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดี ลำต้นและใบแข็งแรง 
ฟอสฟอรัส (P) ช่วยให้พืชแข็งแรงทั้งส่วนราก ลำต้น ใบ ออกดอก ออกผล 
โพแทสเซียม (K) ทำให้ผนังเซลล์ของพืชหนาขึ้น