[มือสอง] ปุ๋ยอินทรีเคมีแบบเม็ดและแบบน้ำฉีดพ่น http://ozone64.lnwshop.com/
รายละเอียด
ปุ๋ยมูลค้างคาว ตราเขาเพชร
Picture
ข้อดีของปุ๋ยมูลค้างคาว
1
มีปริมาณความเข้มข้นของธาตุอาหารพืชสูงกว่าปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอื่น
2
ปุ๋ยมูลค้างคาวนอกจากจะให้ธาตุอาหารที่เพียงพอแล้ว ยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินด้วยทำให้ดินร่วน ดินซุย
3
ในมูลค้างคาวอุดมไปด้วย ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม เช่น แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม
กำมะถัน เหล็กแมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน และโมลิบดินัม คลอลีน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของพืชโดยทั่วไป
4
ในมูลค้างคาวมีธาตุอาหารฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ จึงเหมาะสมกับการนำมาใช้ทั้งใน พืชผัก
พืชสวน พืชไร่ และไม้ดอก ไม้ประดับ จ ช่วยเพิ่มในเรื่องของ สีสัน รสชาติ
และเพิ่มผลผลิตได้อย่างดี
ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตปุ๋ย
1
วัตถุดิบมูลค้างคาว มูลค้างคาวจำนวนมหาศาลที่บริษัทฯได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวนั้น
สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ
ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการ
และพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
2
สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก
ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีค่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้นเหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การปลดปล่อยต่างกัน
ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
3
จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ
จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า
โคนเน่า ในพืชทุกชนิด ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม
รายละเอียด: ปุ๋ยมูลค้างคาว ตรา เขาเพชร สูตร 6-3-3
คุณสมบัติ
-มูลค้างคาวที่สะสมกันในถ้ำเป็นเวลานานจนสลายตัวกลายเป็นปุ๋ย ให้ธาตุทั้งในโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ทำให้มีปริมาณความแข็มข้นของธาตุอาหารพืชสูงทัดเทียมกับปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์
-ผลของการใช้ปุ๋ยมูลค้างคาว ทำให้ดินร่วนไม่เกาะกันแน่น เมื่อแข็งตัว ความเป็นกรด-ด่างของดินอยู่ในระดับที่พอเหมาะกับความเจริญเติบโตของพืช
-การใช้มูลค้างคาว ทำให้เชื้อแบคทีเรียในดินทำการย่อยสลายอินทรีย์สารเปลี่ยนเป็นธาตุอาหารพืชได้ง่ายขึ้น
-มูลค้างคาวให้ธาตุอาหารเสริมของพืช ได้แก่ แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน และโมลิบดินัม
อย่างพอเพียงกับความต้องการของพืช
-การใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวอย่างสม่ำเสมอติดต่อกันจะทำให้ผลตกค้างของปุ๋ย เคมีในดินค่อยๆสลายเป็นอาหารพืช และดินกลับสมบูรณ์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
-ในมูลค้างคาวมีธาตุอาหารฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ จึงเหมาะสมกับการนำมาใช้ทั้งใน พืชผัก พืชสวน พืชไร่ และไม้ดอก ไม้ประดับ
จะช่วยเพิ่มในเรื่องของ สีสัน รสชาติ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างดี
ผลการเปรียบเทียบมูลสัตว์ต่างๆกับมูลค้างคาว
มูลค้างคาวมีไนโตรเจน (N) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆประมาณ 20 เท่า
มูลค้างคาวมีฟอสฟอรัส (P) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 130 เท่า
มูลค้างคาวมีโพเทสเซียม (K) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 4 เท่า
ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตปุ๋ย
1
วัตถุดิบมูลค้างคาว มูลค้างคาวจำนวนมหาศาลที่บริษัทฯได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวนั้น สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย
อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการ และพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์
2
สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก
ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ
เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีค่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้นเหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การปลดปล่อยต่างกัน ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
3
จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล ผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ
จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า โคนเน่า ในพืชทุกชนิด
ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในไม้ผล
เช่น ส้ม ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง ทุเรียน เงาะ เป็นต้น
*ระยะยังไม่มีผล ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 2 – 3 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ โตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน
*ระยะมีผลแล้ว ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 3 – 4 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของต้น ทำให้ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ติดดอกดก ติดผลดก ผลใหญ่ รสชาติดี น้ำหนักดี สีสวยสีเข้ม
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในยางพารา
*ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด
( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
*ในยางเล็กก่อนเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ช่วงปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 - 3 อัตรา 0.5 กก. /ต้น /ครั้ง ช่วยเร่งต้น ทำให้ยางโตไว ใบใหญ่ ใบหนา ใบมัน ต้นยางสมบูรณ์มาก แทงฉัตร 60 – 80 ต่อฉัตร
*ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ช่วงต้นฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง
ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง
*ในยางเปิดกรีด ( ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ปลายฝน ) ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6 - 3 – 3 อัตรา 1 กก./ต้น/ครั้ง
ช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า ป้องกันยางหน้าตาย ช่วยขยายท่อน้ำยาง ทำให้เปลือกยางนิ่ม กรีดง่าย ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น เปอร์เซ็นน้ำยางสูง