[ใหม่] ผ่าตัดดึงหน้า ยกกระชับหน้า ลบรอยย่น ด๊อกเตอร์แคร์คลินิก
545 สัปดาห์ ที่แล้ว
- ขอนแก่น - คนดู 393
รายละเอียด
การผ่าตัดดึงหน้า ด๊อกเตอร์แคร์คลินิก
เวลาอายุมากขึ้นผิวหนังและส่วนต่างๆ บริเวณใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยจะแบ่งคร่าวๆ เป็น 4 ส่วน ของใบหน้า
1. บริเวณหน้าผากและคิ้ว จะมีรอยย่นชัดเจนมากขึ้น และคิ้วทั้งสองข้างจะตกลงมาต่ำกว่าปกติ ทำให้หนังตาบนย้อยลงมาปิดขนตา
2. บริเวณรอบดวงตาและแก้มจะมีหนังตาหย่อนทั้งบนและล่าง หนังตาล่างก็จะมีบวมจากไขมัน และมีรอยย่นตีนกาบริเวณด้านข้างของตา บริเวณแก้มก็จะมีร่องชัดเจนขึ้น
3. บริเวณคางและแก้มส่วนล่าง โดยเฉพาะตรงบริเวณทางด้านข้างจะมีผิวหนังย้อยลงมาเลยขอบกระดูกของขากรรไกรล่าง และจะมีผิวหนังส่วนเกินบริเวณข้างมุมปากชัดเจนขึ้น และใต้คางจะมีผิวหนังและไขมันย้อย
4. ผิวหนังบริเวณลำคอจะย่นและเป็นสันดูเหมือนย้อยมากขึ้น
การรักษารอยย่นบริเวณใบหน้ารอบตาและแก้มมีหลายวิธี การใช้ยาลอกผิว (Chemical Peeling) ด้วยยาชนิดต่างๆ มักเป็นกรดอ่อนๆ จะทำให้ผิวหนังดูเรียบขึ้นก็จริง แต่ส่วนผิวหนังส่วนเกินและไขมันใต้ผิวหนังก็ยังมีอยู่ ทำให้คิ้วและแก้มยังย้อยอยู่ ส่วนการใช้เลเซอร์ขัดผิวก็ได้ผลคล้ายๆ กัน การผ่าตัดดึงหน้าและคอจะช่วยให้ไขมันส่วนเกินและผิวหนังที่ย้อย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและคิ้ว และคางด้านตรงและด้านข้างจะดีขึ้นชัดเจน อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถหยุดความแก่ชราลงได้ ในระยะยาวอาจจะต้องทำการผ่าตัดเพิ่มเติมได้
ส่วนรายละเอียดของการผ่าตัดดึงหน้าจะแบ่งเป็น 4 ส่วนของใบหน้าและการผ่าตัดดึงหน้าอาจจะทำเป็นบางส่วนก็ได้ไม่จำเป็นต้องทั้ง 4 ส่วนพร้อมกัน ขึ้นกับว่าส่วนไหนมีการหย่อนยานมาก
1. ส่วนหน้าผากและคิ้ว การผ่าตัดมีจุดประสงค์ที่จะดึงบริเวณผิวหนังส่วนหน้าผากให้ตึงขึ้นไปด้านบน จะทำให้คิ้วกลับสู่สภาพที่ยังเยาว์วัย และลดรอยย่นตามขวางบริเวณหน้าผากและรอยย่นบริเวณหัวคิ้ว โดยการตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่น ส่วนผิวหนังส่วนเกินจะตัดออกโดยซ่อนแผลไว้ในบริเวณที่มีผม
2. ส่วนรอบตาและโหนกแก้ม และแก้มข้างมุมปาก เรามักจะผ่าตัดหนังตาบนและหนังตาล่างไปพร้อมกัน โดยตัดหนังและไขมัส่วนเกินออกจากบริเวณรอบตา ส่วนรอยตีนกาทางด้านข้างของตาและโหนกแก้มก็จะผ่าตัดโดยดึงส่วนของผิวหนังและ กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังออกไปทางด้านข้างโดยการผ่าตัดอยู่บริเวณขมับในบริเวณ ที่มีผมเพื่อซ่อนรอยผ่าตัด ส่วนแก้มด้านข้างก็จะดึงออกไปบริเวณขมับเหนือใบหู ผิวหนังส่วนเกินก็จะตัดออกโดยมีแผลบริเวณร่องหน้าหู ซึ่งจะซ่อนรอยได้
3. คางส่วนกลางบริเวณใต้คางซึ่งมีไขมันย้อยอยู่ก็จะเอาออกได้โดย มีแผลเล็กๆ ใต้คาง และเย็บกระชับกล้ามเนื้อเพื่อไม่ให้มีสันย้อยใต้คาง นอกจากนี้อาจใช้การดูดไขมันร่วมด้วยได้ ส่วนคางด้านข้างก็จะดึงออกให้ตึงโดยแผลอยู่ที่หลังใบหู ร่วมกับการดึงคอ
4. การดึงผิวหนังบริเวณคอก็จะมีรอยผ่าตัดบริเวณไรผมทางด้านหลังหู และด้านข้าง จะซ่อนรอยผ่าตัดไว้ได้ โดยจะตัดหนังส่วนเกินออก
การผ่าตัดดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลานาน 3-6 ชั่วโมง ถ้าต้องทำทุกส่วนทั้ง 4 ส่วน ผู้ป่วยมักต้องใช้ยาช่วยให้หลับหรือการดมยาสลบระหว่างผ่าตัดร่วมกับการฉีดยาชาเฉพาะที่ ผู้ป่วยจึงต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง และควรได้รับการตรวจร่างกายและเช็คเลือด รวมทั้งเอ็กซเรย์ปอดก่อนทำการผ่าตัด และต้องไม่มีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยาก และควรหยุดทานยาที่ทำให้เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องเลือดออกมากกว่าธรรมดา เช่น ยาแอสไพริน หรือยาแก้อักเสบอีกหลายชนิด
คนไข้ที่สูบบุหรี่ก็ควรหยุดบุหรี่ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพราะผลจากการสูบบุหรี่จะทำให้ผิวหนังช้ำง่าย และเส้นเลือดที่มาเลี้ยงผิวหนังมักจะไม่ดีเท่าคนปกติทำให้แผลหายช้า ถ้าเป็นเบาหวานหรือความดันสูงก็ต้องได้รับการควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อน นอกจากนี้ควรอดอาหารก่อนผ่าตัด 4-6 ชั่วโมง
การผ่าตัดไม่จำเป็นต้องโกนผมมักจะให้ผู้ป่วยสระผมและล้างหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัดจะมีใบหน้าบวมและมีรอยช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ผู้ป่วยสามารถล้างหน้า สระผม แปรงฟัน ได้ตามปกติ ในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัด และจะมีการตัดไหมประมาณ 5-7 วันหลังผ่าตัด โดยทั่วไปใบหน้าจะกลับสู่สภาพปกติระหว่าง 1-3 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวแพทย์จะนัดผู้ป่วยมาเช็คเป็นระยะๆ ในช่วงที่มีบวมของใบหน้า ส่วนต่างๆ ของใบหน้าอาจจะยังดูไม่เท่ากัน แต่ทุกอย่างจะกลับสู่ปกติเมื่อยุบบวมแล้ว โดยทั่วไปผู้ป่วยควรจะพักอยู่ภายในบ้านในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 1-3 วันหลังการผ่าตัด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มักจะเป็นผลจากการใช้ยาให้หลับหรือยาสลบ ในช่วงวันสองวันแรก อาจจะมีบริเวณใต้ผิวหนังซึ่งมีเลือดค้างอยู่ มักจะดีขึ้นเอง มีบางรายที่อาจต้องดูดออก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางส่วนของใบหน้ายังทำงานไม่ได้ปกติ เช่น เวลายิ้ม หรือยักคิ้ว อาจจะไม่เท่ากัน มักจะดีขึ้นเองเมื่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อหายช้ำประมาณ 1-2 เดือน หลังผ่าตัด นอกจากนี้จะมีแผลเป็นบริเวณหลังหูอยู่นานหรือนูนได้ ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการทายาหรือฉีดยาเฉพาะที่ ส่วนในบริเวณผมอาจจะมีผมร่วงบริเวณผ่าตัดได้ แต่มักจะงอกขึ้นมาใหม่ในระยะ 2-3 เดือนหลังผ่าตัด
มักจะมีคำถามว่าควรจะดึงหน้าเมื่ออายุเท่าไร โดยทั่วไปขึ้นกับลักษณะของผิวหนังของแต่ละคนมากกว่าอายุ ถ้าผิวหนังหย่อนเร็ว อายุ 40 ต้นๆ ก็สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ และคำถามที่ว่าการผ่าตัดดึงหน้าแต่ละครั้งจะให้ผลนานเท่าใด ก็เช่นกัน การผ่าตัดไม่สามารถหยุดยั้งขบวนการแก่ชราลงได้ แต่จะทำให้ดูใบหน้าสดชื่น อ่อนเยาว์กว่าผู้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน หรือดีกว่า ก่อนทำการผ่าตัด
เวลาอายุมากขึ้นผิวหนังและส่วนต่างๆ บริเวณใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยจะแบ่งคร่าวๆ เป็น 4 ส่วน ของใบหน้า
1. บริเวณหน้าผากและคิ้ว จะมีรอยย่นชัดเจนมากขึ้น และคิ้วทั้งสองข้างจะตกลงมาต่ำกว่าปกติ ทำให้หนังตาบนย้อยลงมาปิดขนตา
2. บริเวณรอบดวงตาและแก้มจะมีหนังตาหย่อนทั้งบนและล่าง หนังตาล่างก็จะมีบวมจากไขมัน และมีรอยย่นตีนกาบริเวณด้านข้างของตา บริเวณแก้มก็จะมีร่องชัดเจนขึ้น
3. บริเวณคางและแก้มส่วนล่าง โดยเฉพาะตรงบริเวณทางด้านข้างจะมีผิวหนังย้อยลงมาเลยขอบกระดูกของขากรรไกรล่าง และจะมีผิวหนังส่วนเกินบริเวณข้างมุมปากชัดเจนขึ้น และใต้คางจะมีผิวหนังและไขมันย้อย
4. ผิวหนังบริเวณลำคอจะย่นและเป็นสันดูเหมือนย้อยมากขึ้น
การรักษารอยย่นบริเวณใบหน้ารอบตาและแก้มมีหลายวิธี การใช้ยาลอกผิว (Chemical Peeling) ด้วยยาชนิดต่างๆ มักเป็นกรดอ่อนๆ จะทำให้ผิวหนังดูเรียบขึ้นก็จริง แต่ส่วนผิวหนังส่วนเกินและไขมันใต้ผิวหนังก็ยังมีอยู่ ทำให้คิ้วและแก้มยังย้อยอยู่ ส่วนการใช้เลเซอร์ขัดผิวก็ได้ผลคล้ายๆ กัน การผ่าตัดดึงหน้าและคอจะช่วยให้ไขมันส่วนเกินและผิวหนังที่ย้อย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและคิ้ว และคางด้านตรงและด้านข้างจะดีขึ้นชัดเจน อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถหยุดความแก่ชราลงได้ ในระยะยาวอาจจะต้องทำการผ่าตัดเพิ่มเติมได้
ส่วนรายละเอียดของการผ่าตัดดึงหน้าจะแบ่งเป็น 4 ส่วนของใบหน้าและการผ่าตัดดึงหน้าอาจจะทำเป็นบางส่วนก็ได้ไม่จำเป็นต้องทั้ง 4 ส่วนพร้อมกัน ขึ้นกับว่าส่วนไหนมีการหย่อนยานมาก
1. ส่วนหน้าผากและคิ้ว การผ่าตัดมีจุดประสงค์ที่จะดึงบริเวณผิวหนังส่วนหน้าผากให้ตึงขึ้นไปด้านบน จะทำให้คิ้วกลับสู่สภาพที่ยังเยาว์วัย และลดรอยย่นตามขวางบริเวณหน้าผากและรอยย่นบริเวณหัวคิ้ว โดยการตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่น ส่วนผิวหนังส่วนเกินจะตัดออกโดยซ่อนแผลไว้ในบริเวณที่มีผม
2. ส่วนรอบตาและโหนกแก้ม และแก้มข้างมุมปาก เรามักจะผ่าตัดหนังตาบนและหนังตาล่างไปพร้อมกัน โดยตัดหนังและไขมัส่วนเกินออกจากบริเวณรอบตา ส่วนรอยตีนกาทางด้านข้างของตาและโหนกแก้มก็จะผ่าตัดโดยดึงส่วนของผิวหนังและ กล้ามเนื้อใต้ผิวหนังออกไปทางด้านข้างโดยการผ่าตัดอยู่บริเวณขมับในบริเวณ ที่มีผมเพื่อซ่อนรอยผ่าตัด ส่วนแก้มด้านข้างก็จะดึงออกไปบริเวณขมับเหนือใบหู ผิวหนังส่วนเกินก็จะตัดออกโดยมีแผลบริเวณร่องหน้าหู ซึ่งจะซ่อนรอยได้
3. คางส่วนกลางบริเวณใต้คางซึ่งมีไขมันย้อยอยู่ก็จะเอาออกได้โดย มีแผลเล็กๆ ใต้คาง และเย็บกระชับกล้ามเนื้อเพื่อไม่ให้มีสันย้อยใต้คาง นอกจากนี้อาจใช้การดูดไขมันร่วมด้วยได้ ส่วนคางด้านข้างก็จะดึงออกให้ตึงโดยแผลอยู่ที่หลังใบหู ร่วมกับการดึงคอ
4. การดึงผิวหนังบริเวณคอก็จะมีรอยผ่าตัดบริเวณไรผมทางด้านหลังหู และด้านข้าง จะซ่อนรอยผ่าตัดไว้ได้ โดยจะตัดหนังส่วนเกินออก
การผ่าตัดดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้เวลานาน 3-6 ชั่วโมง ถ้าต้องทำทุกส่วนทั้ง 4 ส่วน ผู้ป่วยมักต้องใช้ยาช่วยให้หลับหรือการดมยาสลบระหว่างผ่าตัดร่วมกับการฉีดยาชาเฉพาะที่ ผู้ป่วยจึงต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง และควรได้รับการตรวจร่างกายและเช็คเลือด รวมทั้งเอ็กซเรย์ปอดก่อนทำการผ่าตัด และต้องไม่มีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยาก และควรหยุดทานยาที่ทำให้เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องเลือดออกมากกว่าธรรมดา เช่น ยาแอสไพริน หรือยาแก้อักเสบอีกหลายชนิด
คนไข้ที่สูบบุหรี่ก็ควรหยุดบุหรี่ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพราะผลจากการสูบบุหรี่จะทำให้ผิวหนังช้ำง่าย และเส้นเลือดที่มาเลี้ยงผิวหนังมักจะไม่ดีเท่าคนปกติทำให้แผลหายช้า ถ้าเป็นเบาหวานหรือความดันสูงก็ต้องได้รับการควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อน นอกจากนี้ควรอดอาหารก่อนผ่าตัด 4-6 ชั่วโมง
การผ่าตัดไม่จำเป็นต้องโกนผมมักจะให้ผู้ป่วยสระผมและล้างหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัดจะมีใบหน้าบวมและมีรอยช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ผู้ป่วยสามารถล้างหน้า สระผม แปรงฟัน ได้ตามปกติ ในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัด และจะมีการตัดไหมประมาณ 5-7 วันหลังผ่าตัด โดยทั่วไปใบหน้าจะกลับสู่สภาพปกติระหว่าง 1-3 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวแพทย์จะนัดผู้ป่วยมาเช็คเป็นระยะๆ ในช่วงที่มีบวมของใบหน้า ส่วนต่างๆ ของใบหน้าอาจจะยังดูไม่เท่ากัน แต่ทุกอย่างจะกลับสู่ปกติเมื่อยุบบวมแล้ว โดยทั่วไปผู้ป่วยควรจะพักอยู่ภายในบ้านในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 1-3 วันหลังการผ่าตัด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มักจะเป็นผลจากการใช้ยาให้หลับหรือยาสลบ ในช่วงวันสองวันแรก อาจจะมีบริเวณใต้ผิวหนังซึ่งมีเลือดค้างอยู่ มักจะดีขึ้นเอง มีบางรายที่อาจต้องดูดออก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางส่วนของใบหน้ายังทำงานไม่ได้ปกติ เช่น เวลายิ้ม หรือยักคิ้ว อาจจะไม่เท่ากัน มักจะดีขึ้นเองเมื่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อหายช้ำประมาณ 1-2 เดือน หลังผ่าตัด นอกจากนี้จะมีแผลเป็นบริเวณหลังหูอยู่นานหรือนูนได้ ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการทายาหรือฉีดยาเฉพาะที่ ส่วนในบริเวณผมอาจจะมีผมร่วงบริเวณผ่าตัดได้ แต่มักจะงอกขึ้นมาใหม่ในระยะ 2-3 เดือนหลังผ่าตัด
มักจะมีคำถามว่าควรจะดึงหน้าเมื่ออายุเท่าไร โดยทั่วไปขึ้นกับลักษณะของผิวหนังของแต่ละคนมากกว่าอายุ ถ้าผิวหนังหย่อนเร็ว อายุ 40 ต้นๆ ก็สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ และคำถามที่ว่าการผ่าตัดดึงหน้าแต่ละครั้งจะให้ผลนานเท่าใด ก็เช่นกัน การผ่าตัดไม่สามารถหยุดยั้งขบวนการแก่ชราลงได้ แต่จะทำให้ดูใบหน้าสดชื่น อ่อนเยาว์กว่าผู้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน หรือดีกว่า ก่อนทำการผ่าตัด
ค่าใช้จ่าย : 35,000 บาท
ติดต่อ ส้ม 086-6423424, ID Line: numsom-dc