[ใหม่] ชุดคนรักหนังสือ ผู้เขียน: เจเรมี เมอร์เซอร์
544 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - คนดู 101
รายละเอียด
หนังสือเล่มแรกในชุด “คนรักหนังสือ”
"ปารีส พำนัก คนรัก หนังสือ(Time Was Soft There: A Paris Sojourn at Shakespeare & Co.)"
ผู้เขียน: เจเรมี เมอร์เซอร์
ผู้แปล: ศรรวริศา
สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่
พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 52
จำนวน 352 หน้า
เนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องราวจากความทรงจำและบันทึกของเมอร์เซอร์ ในช่วงที่เขาต้องลี้ภัยจากแคนาดาบ้านเกิด มายังปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนได้มาพบกับ "เชกสเปียร์ แอนด์ คัมพานี" (Shakespeare and Company) ร้านหนังสือที่มีอะไรมากไปกว่าการขายหนังสือ
ร้านหนังสือริมฝั่งแม่น้ำแซนแห่งนี้ เปิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2494 มีเจ้าของชื่อ จอร์จ วิตแมน นักเขียนชาวอเมริกา ผู้มีแนวคิดสังคมนิยม และอุทิศตนให้แก่การเป็นพ่อค้าหนังสือในอุดมคติ เขาเปิด "เชกสเปียร์ แอนด์ คัมพานี" ให้แก่นักเขียนไส้แห้งจากทุกมุมโลกให้เข้าพักชั่วคราว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่มีข้อแม้บางอย่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีแก่นักเขียนเหล่านั้น
หนึ่งในนักเขียนที่เข้าไปอาศัยพักพิงในร้านหนังสือเล็กๆในปารีสแห่งนี้ก็คือ "เจเรมี เมอร์เซอร์"
นอกจากเรื่องราวภายในร้านหนังสือ เมอร์เซอร์ยังแทรกรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับหนังสือดีๆน่าอ่านไว้หลายเล่ม
อ่าน “ปารีส/พำนัก/คน/รัก/หนังสือ" แล้ว หลายคนอาจจะคิดอยากจะเปิดร้านหนังสือเล็กๆสักร้าน ไว้เป็นร้านหนังสือในอุดมคติของตัวเอง...
หนังสือลำดับที่สองในชุด “คนรักหนังสือ” ต่อจาก ปารีส/พำนัก/คน/รัก/หนังสือ
shop_six
"เฮย์-ออน-ไวย /เมือง/รัก/หนังสือ(Sixpence house : Lost in a town of books)"
ผู้เขียน: พอล คอลลินส์
ผู้แปล: ศรรวริศา
พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 54
จำนวน 296 หน้า
เฮย์-ออน-ไวย เมือง/รัก/หนังสือ จะนำท่านไปสัมผัสกับเมืองเล็กๆ ในแคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร เมืองหนังสือที่มีประชากรหนึ่งพันห้าร้อยคน โบสถ์ห้าหลัง ร้านขายของชำสี่ร้าน แผงหนังสือพิมพ์สองแผง ที่ทำการไปรษณีย์หนึ่งแห่ง…และร้านหนังสือสี่สิบร้าน นั่นเท่ากับมีร้านหนังสือ (เก่า) หนึ่งร้านต่อประชากร 37 คน ซึ่งอาจทำให้หนอนหนังสือหลายคนรำพันฝันหวานว่า อะไรจะน่าอยู่อย่างนี้
“หัวใจของเรื่องที่ประทับใจและแท้จริงก็คือเรื่องราวความรักหนังสือของคอลลินส์และคนอื่นๆ ที่รักหนังสือเหมือนเขา…เขารำพันถึงหนังสือเก่าเหมือนที่คนส่วนใหญ่จดจำรำลึกเรื่องราวความรักที่เลือนหาย” —ซานฟรานซิสโก ครอนิเคิล*
“ความสุขใจของคนรักหนังสือ…คอลลินส์มักรำพันถึงความไม่จีรังของหนังสือ แต่หนังสือของเขาจะอยู่บนชั้นหนังสืออย่างสง่างามไปอีกหลายปี” — บุ๊กลิสต์
หนังสือลำดับที่สามในชุด “คนรักหนังสือ” ต่อจาก เฮย์-ออน-ไวย เมือง/รัก/หนังสือ
"เฟอร์มิน หนู/รัก/หนังสือ(Firmin)"
ผู้เขียน: แซม เซเวจ
แปล: ศรรวริศา
สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่
พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 52
จำนวน 184 หน้า
'เฟอร์มิน' เป็นหนูน้องน้อยตัวที่สิบสามของแม่หนูขี้เมา เขาเกิดในห้องใต้ดินของร้านหนังสือในย่านที่กำลังจะถูกทุบทำลายของนครบอสตันในช่วงทศวรรษ 1960 หลังจากกัดกินหนังสือเป็นอาหารประทังชีวิต เขาก็เริ่มอ่านหนังสือออก อ่านหนังสือแตก และตะลุยอ่านหนังสือมากมายที่อยู่ในร้าน สลับกับการออกไปดูหนังโป๊และไม่โป๊ที่โรงหนังใกล้ๆ ด้วยความรู้มากมายที่ได้จากหนังสือ เฟอร์มินรู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ติดอยู่ในร่างหนู และปรารถนาจะสานมิตรภาพกับมนุษย์
สภาพใหม่ 100 %
ราคารวมสามเล่ม : 725 บาท
เหลือ : 590 บาท
"ปารีส พำนัก คนรัก หนังสือ(Time Was Soft There: A Paris Sojourn at Shakespeare & Co.)"
ผู้เขียน: เจเรมี เมอร์เซอร์
ผู้แปล: ศรรวริศา
สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่
พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 52
จำนวน 352 หน้า
เนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องราวจากความทรงจำและบันทึกของเมอร์เซอร์ ในช่วงที่เขาต้องลี้ภัยจากแคนาดาบ้านเกิด มายังปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนได้มาพบกับ "เชกสเปียร์ แอนด์ คัมพานี" (Shakespeare and Company) ร้านหนังสือที่มีอะไรมากไปกว่าการขายหนังสือ
ร้านหนังสือริมฝั่งแม่น้ำแซนแห่งนี้ เปิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2494 มีเจ้าของชื่อ จอร์จ วิตแมน นักเขียนชาวอเมริกา ผู้มีแนวคิดสังคมนิยม และอุทิศตนให้แก่การเป็นพ่อค้าหนังสือในอุดมคติ เขาเปิด "เชกสเปียร์ แอนด์ คัมพานี" ให้แก่นักเขียนไส้แห้งจากทุกมุมโลกให้เข้าพักชั่วคราว โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่มีข้อแม้บางอย่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีแก่นักเขียนเหล่านั้น
หนึ่งในนักเขียนที่เข้าไปอาศัยพักพิงในร้านหนังสือเล็กๆในปารีสแห่งนี้ก็คือ "เจเรมี เมอร์เซอร์"
นอกจากเรื่องราวภายในร้านหนังสือ เมอร์เซอร์ยังแทรกรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับหนังสือดีๆน่าอ่านไว้หลายเล่ม
อ่าน “ปารีส/พำนัก/คน/รัก/หนังสือ" แล้ว หลายคนอาจจะคิดอยากจะเปิดร้านหนังสือเล็กๆสักร้าน ไว้เป็นร้านหนังสือในอุดมคติของตัวเอง...
หนังสือลำดับที่สองในชุด “คนรักหนังสือ” ต่อจาก ปารีส/พำนัก/คน/รัก/หนังสือ
shop_six
"เฮย์-ออน-ไวย /เมือง/รัก/หนังสือ(Sixpence house : Lost in a town of books)"
ผู้เขียน: พอล คอลลินส์
ผู้แปล: ศรรวริศา
พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 54
จำนวน 296 หน้า
เฮย์-ออน-ไวย เมือง/รัก/หนังสือ จะนำท่านไปสัมผัสกับเมืองเล็กๆ ในแคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร เมืองหนังสือที่มีประชากรหนึ่งพันห้าร้อยคน โบสถ์ห้าหลัง ร้านขายของชำสี่ร้าน แผงหนังสือพิมพ์สองแผง ที่ทำการไปรษณีย์หนึ่งแห่ง…และร้านหนังสือสี่สิบร้าน นั่นเท่ากับมีร้านหนังสือ (เก่า) หนึ่งร้านต่อประชากร 37 คน ซึ่งอาจทำให้หนอนหนังสือหลายคนรำพันฝันหวานว่า อะไรจะน่าอยู่อย่างนี้
“หัวใจของเรื่องที่ประทับใจและแท้จริงก็คือเรื่องราวความรักหนังสือของคอลลินส์และคนอื่นๆ ที่รักหนังสือเหมือนเขา…เขารำพันถึงหนังสือเก่าเหมือนที่คนส่วนใหญ่จดจำรำลึกเรื่องราวความรักที่เลือนหาย” —ซานฟรานซิสโก ครอนิเคิล*
“ความสุขใจของคนรักหนังสือ…คอลลินส์มักรำพันถึงความไม่จีรังของหนังสือ แต่หนังสือของเขาจะอยู่บนชั้นหนังสืออย่างสง่างามไปอีกหลายปี” — บุ๊กลิสต์
หนังสือลำดับที่สามในชุด “คนรักหนังสือ” ต่อจาก เฮย์-ออน-ไวย เมือง/รัก/หนังสือ
"เฟอร์มิน หนู/รัก/หนังสือ(Firmin)"
ผู้เขียน: แซม เซเวจ
แปล: ศรรวริศา
สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่
พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 52
จำนวน 184 หน้า
'เฟอร์มิน' เป็นหนูน้องน้อยตัวที่สิบสามของแม่หนูขี้เมา เขาเกิดในห้องใต้ดินของร้านหนังสือในย่านที่กำลังจะถูกทุบทำลายของนครบอสตันในช่วงทศวรรษ 1960 หลังจากกัดกินหนังสือเป็นอาหารประทังชีวิต เขาก็เริ่มอ่านหนังสือออก อ่านหนังสือแตก และตะลุยอ่านหนังสือมากมายที่อยู่ในร้าน สลับกับการออกไปดูหนังโป๊และไม่โป๊ที่โรงหนังใกล้ๆ ด้วยความรู้มากมายที่ได้จากหนังสือ เฟอร์มินรู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ติดอยู่ในร่างหนู และปรารถนาจะสานมิตรภาพกับมนุษย์
สภาพใหม่ 100 %
ราคารวมสามเล่ม : 725 บาท
เหลือ : 590 บาท