[ใหม่] ตะกรุดมงกุฎพระพุทธเจ้า หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กทม

451 สัปดาห์ ที่แล้ว - สมุทรปราการ - คนดู 446
รายละเอียด

//////ตะกรุดมงกุฎพระพุทธเจ้า หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กทม ตะกรุดอันดับต้นต้นของประเทศ ดูง่าย ลายมาตรฐาน   ยาว 5 นิ้ว โตขนาดปากกา รักแดง กลิ้งผงบาง   ////////

.......สำหรับอักขระเลขยันต์ที่ ท่านหลวงปู่ เอี่ยมวัดหนังใช้ลงในตะกรุดของ ท่านนั้นคือยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า เป็นยันต์ที่นับถือกันมาแต่โบราณ และ เป็นยันต์หนุนดวงชะตา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่อาราธนาตะกรุดนี้ติดตัวจะไม่มีการตกต่ำ ถ้าเวลาดวงตกให้ภาวนามงกุฏพระพุทธเจ้าวันละ ๑๘ จบ..... อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ.....อานุภาพของตระกรุด ยังสามารถป้องกันภยันอันตรายต่างๆ ทั้งภูติผีปีศาจและสัตว์ร้ายเมื่อตกอยู่ในอันตรายให้นึกถึง คุณพระรัตนตรัยและภาวนาพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าภยันอันตรายจะไม่สามารถเข้า มากล้ำกลายได้

........หลวงปู่อี่ยม ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่ล้นเกล้า รัชการลที่ 5 ให้ความเคารพอย่างยิ่งและเป็นผู้ที่ถวายถวายคำพยากรณ์ ก่อนที่จะเสด็จประพาสยุโรปและหลวงปู่เอี่ยมท่านได้มอบคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ให้เพื่อใช้เสกหญ้าให้ม้าพยศกิน "คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย" หรือ "มงกุฎพระพุทธเจ้า"

..........ฝรั่งจะลองดีร.5 ให้ปราบม้าฝรั่งดุร้ายขนาดดื่มเลือดมนุษย์............

.......ดังเช่นเรื่องการกำราบสัตว์ร้าย เหตุการณ์ครั้งนั้นมีอยู่ว่า ในปี พ.ศ. 2440 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริ เสด็จประพาสยุโรป เพื่อเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ โดยก่อนการเสด็จ สมเด็จพระสังฆราชปุสสเทโว ได้ถวายพระพร และแนะนำให้เสด็จไปอาราธนาพระอธิการเอี่ยมแห่งวัดหนัง เพื่อรับถวายคำพยากรณ์ และพระมงคลพุทธาคม ดังนั้นจึงเสด็จไปพบหลวงปู่เอี่ยมซึ่งได้ถวายพระพร และทรงทำนายว่าในการเสด็จครั้งนี้ พระราชกรณียกิจทั้งปวงจะสำเร็จลุล่วง แต่ในโอกาสหนึ่งพระองค์จะต้องทรงประทับขี่สัตว์จัตุรงคบาท อันชาตินิสัยที่ดุร้าย แต่ด้วยพระบุญญาธิการพระองค์จะทรงปลอดภัย หลวงปู่เอี่ยมจึงถวายพระคาถาบริกรรมเสกหญ้า เพื่อปราบสัตว์ แล้วพระองค์ก็ทรงเสด็จประพาสยุโรป เหตุการณ์ล่วงหน้าที่หลวงปู่เอี่ยมได้ถวายคำทำนายก็เกิดขึ้น คือในขณะทรงประทับอยู่ ณ ประเทศฝรั่งเศส ได้มีเจ้าชายพระองค์หนึ่งเชิญเสด็จเพื่อพระทอดเนตรการแข่งขันกีฬาโปโล และการขี่ม้าพยศ โดยในระหว่างการแสดงขี่ม้าพยศนั้น ได้มีม้าตัวหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่อีกทั้งพยศและดุร้าย ไม่มีผู้ใดสามารถบังคับขี่มันได้ เจ้าชายฝรั่งเศสองค์นั้นนั้งจึงทรงทูลถามสมเด็จเจ้าฟ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า "ที่เมืองไทยนั้น มีม้าพยศดุร้ายอย่างนี้ไหม และมีคนไทยสามารถบังคับมันได้หรือ" พระองค์จึงตรัสว่า "ก็พอมีบ้าง" แล้วได้ทรงรำลึกถึงคำพยากรณ์ และพระพุทธาคมที่หลวงปู่เอี่ยมได้ทรงถวายจึงไม่ตรัสตอบแต่ประการใด แต่ทรงเสด็จลงจากแท่นประทับ แล้วตรัสให้จ๊อกกี้นำเจ้าม้าพยศนั้นมาใกล้ๆ แล้วพระองค์ทรงย่อพระวรกายลงหยิบหญ้า จากนั้นทรงตั้งจิตอธิษฐานบริกรรมพระคาถาที่หลวงปู่เอี่ยมได้สอนถวาย พลันยื่นกำหญ้านั้นให้เจ้าม้ากิน ม้าอ้าปากรับแล้วบดเคี้ยวแต่โดยดี พระองค์จึงตรัสขอบังเหียนในขณะที่เจ้าม้าพยศนั้นยังอยู่ในอาการที่ปกติ แล้วพระองค์ทรงขึ้นประทับบนหลังม้า แล้วบังคับให้มันออกวิ่งและเดินไปรอบๆ โดยมีชาวต่างชาติที่เข้าร่วมชมการแสดงในวันนั้นต่างโห่ร้องอย่างกึกก้อง ในพระบุญญาธิการของพระองค์ที่ทรงกำราบเจ้าม้าพยศตัวนั้นลงได้ เมื่อเสด็จกลับถึงประเทศไทย พระองค์ได้ไปสักการะหลวงปู่เอี่ยมที่วัดโคนอน ทรงตรัสเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทรงถวายของฝากต่างๆ

//////รับประกันความแท้ตลอดกาล//////////